เจริญ ธรรม 5 กล้า หันหลัง ให้

โลกนี้เปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ ชีวิตปกติตอนนี้กับเมื่อก่อนแตกต่างกันมาก ชีวิตทำงานไม่เป็นอย่างเดิม การแข่งขันขาดกติกามากขึ้น
สิ่งที่เคยเป็นเรื่องน่าอายกลับกลายเป็นเรื่องที่ต้องฝึกหัดเพื่อเป็นที่ยอมรับของสังคม การปกปิดเก็บความรู้สึกไว้ลึกๆตามหลักวัฒนธรรมเดิมถูกวิจารณ์ว่าเป็นคนไม่กล้าแสดงออกมีโอกาศก้าวหน้าน้อยลง
โลกของเทคโนโลยี่มนุษย์ไม่ต้องรู้ว่ามีทีมาที่ไปอย่างไร เหมือนใครบ้างคนบอกว่าไม่รู้หรอกว่าหลอดไฟ ต้องใช้ไฟฟ้า ก๊อกน้ำมีน้ำได้อย่างไร ไม่รู้ว่าต้องมีการใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดในโลกสนใจแค่เปิดแล้วทำงานได้ก็พอ

วิทยาการทางด้าน IT ทำให้เชื่อสิ่งที่เห็น ได้ยิน สัมผัส ไม่เป็นเรื่องจริงอีกต่อไป การฝีกฝนการมีวินัยกับการเสพติดถูกเรียกว่าเป็นอย่างเดียวกัน

ในโลกแบบนี้ผู้เขียนเองก็สนุกสนานกับความแปลกแตกต่างไปบ้างแต่เมื่อทำความเข้าใจในพุทธศาสนามากขึ้นจึงพบว่าธรรมะ ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยในความเป็นจริงที่แสดงให้เห็นได้จริงเช่นกัน สุดแต่ใครจะเปิดใจรับและปรับใช้กับโลกปัจจุบัน

คำสอนในพระสูตรอย่างสั้นที่แนะนำมาให้อ่านนี้นี้เป็นธรรมะ 5ข้อ ที่พระพุทธเจ้าสอนให้เจริญ หรือทำบ่อยๆให้มากไว้ ผลก็คือ เจโตวิมุตติ (การหลุดพ้นทุกข์ด้วยกำลังของจิต) และ ปัญญาวิมุตติ (การหลุดพ้นด้วยปัญญาไม่กลับมาอีก)

จาก http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=22&A=1959&Z=1992&pagebreak=0

แต่ธรรมะ ทั้ง 5 ข้อนี้คงจะเหมือนยาขมมากสำหรับบ้างคน อาจจะกลัวไปด้วยว่าขืนทำบ่อยเผลอพูดหรือแสดงออกมาคนรอบข้างคงมองแปลกๆ 

• พิจารณาว่ากายนี้เป็นของน่าเกลียด
• พิจารณาว่าอาหารที่เลี้ยงกายนี้เป็นสิ่งปฎิกูล
• พิจารณาว่าโลกนี้ไม่มีอะไรน่าเอาน่าเป็นไม่มีอะไรน่ายินดี
• พิจารณาว่าสังขารทั้งหลายล้วนไม่เที่ยง
• พิจารณาว่าตาย( ตรงนี้ใช้คำว่า มรณะสัญญาภายใน ไม่ใช้คำว่ามรณะสติ )

พระพุทธเจ้ายืนยันว่าถ้าทำให้มาก (ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เนื่องๆ ) มึผลมากถึงหลุดพ้นทุกข์ได้

พวกเรากล้าลองดูไหม?