กรรม ความเพียร แก้กรรม


เมื่อเช้าได้อ่านพระไตรปิฎกบทหนึ่งทำให้เปรียบเทียบการพูดถึงกรรม การแก้กรรม ในสมัยนี้ซึ่งดูเหมือนจะห่างออกจากคำสอนในศาสนาพุทธ ไปเหมือนกัน


เรื่องนี้น่าสนใจทีี่นักบวชนอกศาสนากลุ่มหนึ่งเชื่อว่าการบำเพ็ญเพียรอย่างแรงกล้าจะทำให้กรรมในชาติก่อนหมดไปได้ และเมื่อไม่ทำกรรมใหม่ก็จะหลุดพ้นไปในที่สุด พระพุทธเจ้าสอบถามไล่เรียงว่าเชื่อแบบนั้นเพราะอะไร รู้ไหมว่าชาติก่อนเป็นอะไร ทำกรรมอะไร ที่บำเพ็ญเพียรไปกรรมลดไปแล้วเท่าไหร่ แล้วรู้ว่าที่ทำไปแล้วได้ผลหรือเปล่า คำตอบก็คงจะไม่รู้แน่ พระพุทธเจ้าก็ถามด้วยว่าตอนที่บำเพ็ญเพียรอย่างแรงนั้นมีทุกข์หรือเปล่า นักบวชนอกศาสนาก็ตอบว่าใช่มีทุกข์มากด้วย แต่ตอนไม่บำเพ็ญเพียรกลับไม่มีทุกข์

พระพุทธองค์ก็ทรงเฉลยให้เข้าใจว่าการสำรวมอินทรีย์ในทุกอริยบท ไม่รับไม่ยึดเอามาเป็นของตัวจะเป็นทางที่ถูกที่ควร และยกตัวอย่างเช่นถ้าชายหนุ่มเห็นหญิงที่ตนเองรักไปคุยกับชายอื่นเท่านั้นก็ทุกข์แล้วแต่ถ้าสำรวมตนไม่ไปหลุ่มหลงยึดติดไว้หญิงคนนั้นจะไปคุยกับใครก็ไม่เห็นมีผลให้ทุกข์อะไร เหมือนเอาตัวเองที่ไม่มีทุกข์อยู่แล้วไปรองรับความทุกข์เอง

การสำรวมดำรงสติให้กุศลกรรมเกิดเจริญให้มากเข้าจนได้ญานต่างๆตั้งแต่ปฐมญาน เป็นต้นไปก็จะเริ่มคลายทุกข์จนในที่สุดเห็นที่สุดแห่งทุกข์เอง เรื่องของกรรม แก้กรรมที่พูดอยู่ในสมัยนี้ด้วยวิธีการแปลกๆก็เป็นอันยกไป หัวข้อธรรมนี้ชี้ให้เห็นได้ชัดเจนมากมีรายละเอียดที่จะไม่ทำให้คนปฎิบัติหลงไป และจะเห็นได้ว่าการฝึกตนภาวนาอย่างสม่ำเสมอในทุกอริยาบทเป็นเรื่องที่พระพุทธองค์ให้ทำเพื่อพ้นไปจากทุกข์


@นั่งเก้าอี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น