ระหว่าง ทาง ยา แก้


ชีวิตที่ต้องเวียนว่ายอยู่ในภพชาติต่างๆมักจะพบของคู่อยู่เสมอ ขาวหรือดำ ดีหรือชั่ว ซ้ายขวา บนล่าง รักหรือเกลียด ระบบความคิดก็พูกไว้กับการมีสิ่งตรงข้ามกันอยู่ไม่มากก็น้อย คงเป็นกฎธรรมชาติอย่างหนึ่งที่จะมีสิ่งที่ตรงข้ามปะปนอยู่เสมอ บ้างที่ก็นำไปสู่ความขัดแย้ง สงคราม บ้างทีก็นำไปสู่สิ่งสร้างสรรค์เท่าที่มนุษย์จะจิตนาการไปได้

การแสวงหาสิ่งใหม่ เทคโนโลยี่ใหม่ การค้นคว้าสิ่งใหม่ การทดลอง วิธีที่ง่ายและมักจะทำกันก็คือมองหาสิ่งตรงข้าม หรือแตกต่างจากกลุ่ม มนุษย์เองแสวงหาสิ่งพิเศษต่างๆก็ด้วยวิธีการเดียวกัน แยกแยะและนำมาใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์

ในความคิดของแต่ละคนถ้าให้นึกถึงของคู่ที่ตรงข้ามกันในแง่ต่างๆก็คงนึกไม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นในแง่ สังคม วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ ศิลป ดนตรี การศึกษา การใช้ชีวิต และอื่นๆอีกมาก

เส้นทางพ้นทุกข์ก็เช่นกันจะมีทั้งสองฝั่งซึ่งเป็นอริต่อกันหรือเป็นยาแก้ซึ่งกันและกัน ถ้ามึสิ่งหนึ่งอีกสิ่งหนึ่งก็อยู่ไม่ได้เช่นถ้ามีสติ อวิชชา ก็อยู่พร้อมกันไม่ได้

ระหว่างทางที่จะพ้นทุกข์นี้ก็จะมีธรรมะทั้งสองฝั่งที่ผู้ปฎิบัติต้องเลือกว่าจะเจริญอะไรไว้หรือทำความเข้าใจไว้เผื่อว่าถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาจะได้หายาแก้ได้ตามคำสอนของพระสูตรนี้
จาก http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=20&A=42&Z=93




เนื้อหาโดยย่อของพระสูตรนี้พระพุทธเจ้าสอนภิกษุไว้ให้เห็นว่า:

การไม่ระวังในการพิจารณา รูปน่ารักน่าใคร่ จะเป็นเหตุให้ กามฉันทะ เกิด และเจริญงอกงาม
การไม่ระวังในการพิจารณา ความขัดเคืองใจ จะเป็นเหตุให้ พยาบาท เกิด และเจริญงอกงาม
ความเกียจคร้าน จะเป็นเหตุให้ ความง่วงเหงา หดหู่ เกิด และเจริญงอกงาม
ใจไม่สงบ จะเป็นเหตุให้ ความฟุ้งซ่านรำคาญ เกิด และเจริญงอกงาม
ไม่พิจารณาอย่างแยบคายทางใจ จะเป็นเหตุให้ ความลังเลสงสัย เกิด และเจริญงอกงาม

ยาแก้สำหรับกามฉันทะ พยาบาท ความหดหู่ ความฟุ้งซ่าน ความลังเลสงสัย ก็คงเป็นไปในทางตรงข้าม:

การระวังในการพิจารณา รูปน่าเกลียด จะเป็นเหตุให้ กามฉันทะไม่เกิด ที่เกิดแล้ว บุคคลละได้
การระวังในการพิจารณา เมตตา จะเป็นเหตุให้ พยาบาทไม่เกิด ที่เกิดแล้ว บุคคลละได้
ความพากเพียร จะเป็นเหตุให้ ความง่วงเหงา หดหู่ ไม่เกิด ที่เกิดแล้ว บุคคลละได้
จิตสงบ จะเป็นเหตุให้ ความฟุ้งซ่านรำคาญไม่เกิด ที่เกิดแล้ว บุคคลละได้
พิจารณาอย่างแยบคายทางใจ จะเป็นเหตุให้ ความลังเลสงสัย ไม่เกิด ที่เกิดแล้ว บุคคลละได้

เรื่องนี้อ่านง่ายน่าสนุกที่จะทดลองดูด้วยเช่นลองเอารูปตับไตใส้พุงมาวางคู่กับรูปน่ารักแล้วดูสลับไปมาลองสังเกตดูจิตใจว่ามีการถูกกามเล่นงานอย่างไรบ้าง ที่จริงการดูรูปใน G+ไปเรื่อยๆก็เปลี่ยนจิตใจไปมาเหมือนกัน

การพิจารณาอย่างแยบคายทางใจคงจะตรงกับคำว่าโยนิโสมนสิการ ซึ่งคำนี้ก็ทำความเข้าใจอยากอีกเหมือนกัน แต่ก็ไม่ยากสำหรับผู้ฝึกตามดูกายและใจเป็นประจำก็พอจะยังเข้าใจได้ สำหรับคนที่มีกัลยานมิตรแล้วยิ่งถือว่าเป็นโชคดีเป็นมงคลที่จะได้ไต่ถามฝึกดูฝึกตามให้เข้าใจชัด และเมื่อเข้าใจเห็นชัดด้วยตัวเองแล้วความสงสัยทั้งหลายก็จะละได้ด้วยยาตัวนี้


 @นั่งเก้าอี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น