เกิด มา แตกต่าง ต่อ ไป ก็ แตกต่าง




จะเป็นอีกกี่ครั้งก็ตามที่เราถามตัวเองอยู่เสมอว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เป็นเพราะอะไร ในอดีตก็เคยถามกันมา ในอนาคตก็คงจะถามต่อไปเช่นกัน ในสมัยพุทธกาลมีคนถามพระพุทธเจ้าว่า เป็นเพราะอะไรคนเราถึงได้เกิดมาแตกต่างกัน สูงต่ำ ดำขาว รวยจน เลว ปราณีต อายุ สั้นยาว คำตอบตามข้อความที่คัดมา


 [๕๘๑] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมาณพ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็น
ของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรม
เป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้ ฯ

จาก http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=14&A=7623&Z=7798                                                                             
แล้วยังแยกแยะไปในรายละเอียดเช่น
    คนฆ่าสัตว์บ่อย ก็จะอายุสั้น 
    คนทำร้ายคนอื่นบ่อยก็จะมีโรคมาก
    คนโกรธง่ายผิวพรรณทราม
    คนขี้อิจฉาจะไม่มีอำนาจ
    คนทำบุญกับพระจะมีโภคะอุดม
    คนอ่อนน้อมเกิดในตระกูลสูง
    คนศึกษาสอบถามอะไรเป็นกุศล อกุศล มีปัญญา


เนื้อหาส่วนนี้ในพระสูตรมีหลายคนไม่เชื่อ  ไม่ศรัทธา เพราะไม่เชื่อเรื่องโลกหน้า    บางคนก็อาจจะแปลความไปเองว่าในชาตินี้แหละทำอะไรก็ได้อย่างนั้นไม่มีชาติอื่นหรอก
หนังสือชี้ชวนให้กำลังใจในปัจจุบันก็ไม่พูดถึงกรรมในอดีต ทุกอย่างสร้างได้จากมือเรานี้แหละ   เมื่อคน ประสพความสำเร็จมากก็จะชี้ชวนสร้างทฤษฎีในการบริหารตัวเองและผู้อื่นแบบแปลกๆ   แตกต่างกันขึ้นมา  แล้วผู้คนที่คล้อยตามก็จะเหมา ว่าถ้าทำอย่างเดียวกับท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะได้ผลเช่นกัน 
เราก็ไม่เคยพบใครที่ทำเหมือนกันแล้วได้ผลอย่างเดียวกันทุกประการ คงจะไม่ต้องพิสูจน์ ทำทุกอย่างได้คล้ายๆกันผลก็ออกมาแตกต่างกันออกไป


ผู้เขียนเชื่อเรื่องกรรม พยายามอธิบายความเป็นไปต่างๆที่เกิดกับตัวเองและผู้คนรอบข้าง     ด้วยเหตุผลของกรรม จากตัวอย่างของคนที่อายุสั้น คนที่ก้าวไปจนถึงตำแหน่งสูงสุดในองค์กรแล้วสะดุดตัวเองหายไป คนที่ทำดีมาตลอดแต่ก็ผิดหวังบ่อยครั้ง คนที่ไม่สมบูรณ์เรื่องหนึ่งแต่ก็มีอีกเรื่องมาทดแทน คนที่ประสพอุบัติเหตุในเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ บ้างเรื่องก็หาเหตุผลไม่ได้เลย

การเชื่อแบบผู้เขียนนี้ในโลกปัจจุบันเป็นเรื่องล้าสมัยไปเรื่อยๆ และยังมีคำถามอีกมากมายว่าชาติหน้า  มีจริงหรือ หรือทุกวันนี้เกิดจากกรรมเก่าจากชาติที่ผ่านมาหรือ ทำวันนี้ดีจะได้ไปสวรรค์หรือ     การติดตามถามถึงเรื่องเหล่านั้ก็จะตกลงไปสู่อัตตา ขันธ์ 5 ที่เป็นอดีต อนาคต หลุดไปจากธรรมปัจจุบัน ซึ่งกรรมอันใหม่เก่าทั้งหลายจะก่อกำเนิดไปอีก  


เรื่องนี้จะทำความเข้าใจได้ยากหนักซับซ้อน แต่ถ้าหยุดคิดกลับมาอยู่ที่ลมหายใจง่ายๆที่ปัจจุบันบางที่ก็  ไม่เห็นว่าจะต้องการคำตอบไปทำไม



@นั่งเก้าอี้






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น