นานๆจะชอบหนังสือซักเล่ม กับ New York 1st time

    ขอเปิดด้วยประโยคที่คุ้นหูกันดี "คนไทยอ่านหนังสือไม่เกินปีละแปดบรรทัด" เราขอยืนยันเลยว่าเป็นความจริง อย่างน้อยก็มีเรานี่แหละคนนึง จำไม่ได้ว่าอ่านหนังสือที่ไม่ใช่นิยายครั้งสุดท้ายนี่เมื่อไหร่ ยิ่งพวกหนังสือท่องเที่ยวหรือชีวิตต่างแดนอะไรเทือกนี้นี่อย่าหวัง ไม่ชอบแนวนั้นเป็นทุน แต่ที่ได้หนังสือเล่มนี้มาอยู่ในมือถือว่าเป็นผลพวงจากการโฆษณาล้วนๆ
 
 ถ้าเป็นวัยรุ่นหรือวัยทำงานที่คุ้นเคยกับโซเชียลพอสมควร เมื่อไม่นานมานี้คงคุ้นเคยกับคลิปนี้




   ซึ่งมันคือคลิปโฆษณาหนังสือที่ไม่รู้ว่าตั้งใจจะให้มันเป็น"การโฆษณา"จริงๆรึเปล่าแต่ที่แน่ๆ มันประสบความสำเร็จมากกว่าพวกโฆษณาประกันต่างๆนาๆมากมาย เป็นกระแสได้ด้วยความเรียบง่ายของมันเอง เข้าถึงได้แทบทุกตลาด ผลก็คือ แทบทุกคนอยากได้หนังสือเล่มนี้มาอยู่ในมือ เราก็เป็นหนึ่งในนั้น



   จริงๆแล้ว New York 1st Time เล่มนี้ว่างขายไปตั้งแต่งานหนังสือคราวที่แล้ว แต่ไม่ได้มีโอกาสไป ก็เลยลากยาวมาจนถึงตอนนี้ เพิ่งจะได้ไปหยิบจากร้านหนังสือใกล้ๆบ้านมา จริงๆแล้วเนื้อหาก็ไม่ได้มีแรงบัลดาลใจ เนื้อหาสาระ หรือความรู้อะไรมากมาย ถ้าถามว่าได้อะไรจากหนังสือเล่มนี้บ้างมั้ย
ก็ตอบตรงๆว่าไม่รู้อะ555 แต่มันมีความน่าสนใจที่สามารถดึงคนที่อ่านแต่นิยายให้มาละเลียดอ่านมันจนจบได้ ต้องใช้คำว่าละเลียด เพราะปกติเราเป็นคนเกลียดการรอตอนจบมากๆ ถ้าได้หนังสือมาซักเล่มจะเปิดตอนสุดท้ายอ่านก่อน แล้วถ้าเริ่มอ่านแล้ว ก็จะอ่านแบบรวดเดียวจบเล่มเลย ไม่ชอบอ่านค้างไว้ หรือค่อยๆอ่านทีละบท แต่หนังสือเล่มนี้พอชิมบทแรกไปก็ตั้งใจไว้เลยว่าจะค่อยๆชิมช้าๆ ไม่เร่งรีบกับมัน อ่านวันละสองบทพอ
  คุณพี่เบ๊นผู้เขียนเป็นคนมีสเน่ห์ในการอธิบายเรื่องราวต่างๆในแง่มุมที่น่าสนใจ ภาษาที่ตรงๆห่ามๆของเค้าเป็นอีกเหตุผลนึงที่อ่านแล้วรู้สึกสนุกไปกับมัน เหมือนฟังเพื่อนมาเล่าเรื่องที่ไปเจอมาให้ฟังมากกว่านั่งอ่านหนังสือ อ่านเล่มนี้จบก็เลยพาลไปตามเฟสบุ๊คและอินตราแกรมแกไปเลย เพราะหนึ่ง พี่แกเป็นช่างภาพ ถ่ายรูปสวยมาก แต่ละสถานที่ธรรมดาดูไม่ธรรมดาเอาซะเลยพอพี่แกถ่ายออกมา แล้วก็อีกอย่างคือสนใจในมุมมองและความคิดบางอย่างต่อโลกของเค้า มันแปลกดี ชีวิตคนมันไม่ได้อยู่แค่ในหนังสือเล่มเดียวอยู่แล้ว ต่อให้ไม่มีเล่มต่อไป แต่แค่สเตตัสเฟสบุ๊คพี่เค้าก็อ่านเพลินแล้ว อีกอย่างที่สนใจคือ พี่เค้าอยู่ในเป็นนักเรียนทางด้านศิลปะ แถมอยู่กลางมหานครแห่งศิลปะยุคใหม่อย่างนิวยอร์ค สิ่งที่เสพต่างๆที่พี่เค้าพูดถึงล้วนเป็นวัตถุดิบชั้นดีให้นักเรียนศิลปะอย่างเราทั้งสิ้น นี่รวมถึงเนื้อหาและกิมมิคต่างๆในหนังสือของพี่เค้าด้วยนะ สรุปก็คือ หนังสือเล่มนี้สนุกหนะแหละ ถ้าเป็นคนชอบอ่านอัตชีวประวัติแบบเน้นเนื้อหาสาระสำคัญอะไรก็ข้ามเล่มนี้ไป แต่ถ้าชอบฮิปเตอร์(ในแง่ดีอะนะ)ในวงการนักเขียนเล่มนี่ก็เป็นอีกเล่มที่ควรถือไว้  แค่นั้นแหละ :)


เปิดวาร์ปเพจFBพี่เค้า https://www.facebook.com/BenzThanachart
ลองเข้าไปไลค์กันได้ ต่อให้ยังไม่ได้อ่านหนังสือ แค่ดูรูปที่พี่เค้าถ่ายแต่ละรูปก็คุ้มแล้ว

AHCIN.P




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น