รูป ครอบงำ จิต บุรุษ สตรี


ป่วยอยู่สองวันที่บ้านลิว รู้สึกขี้เกียจขึ้นแต่ก็ได้พบความสงบอบอุ่นใจในบ้าน ความสุขของคนครองเรือนเป็นอีกแบบหนี่งพอต้องนอนพักก็คิดถึงงานคิดถึงบทความในบ้านลิวที่เบาๆ ที่เพือนบ้านลิวได้อ่านเล่นไม่หนักไป
ธรรมะในพระไตรปิฎกมีเรื่องทั้งอยากและง่าย ยาว สั้น เป็นเรื่องราว ประวัติศาสตร์ ข้อคิด และนิทาน ผู้เขียนให้เวลาอยู่ในการอ่านพระไตรปิฎกอย่างสมำเสมอ ข้อคิดต่างๆก็นำไปใช้แก้ไขปัญหาต่างๆในเรื่องงานและครอบครัวเสมอยังไม่เห็นว่าคำสอนเหล่านี้จะเก่าหรือล้าสมัย หรือก็ยังใช้ถกประเด็นเชิงความรู้ การบริหาร การปกครอง และปรัญญาทั้งกับชาวไทยและต่างประเทศโดยไม่มีความเคอะเขินใดๆ
เมื่ออาทิตย์ก่อนผู้เขียนพบคนรุ่นใหม่ที่ชอบก้าวข้ามรายละเอียดเข้าไปหาทางออกด้วยการอ่านใน Internet แล้วเข้าใจว่าความคิดกว้างๆเหล่านั้นแก้ไขปัญหาในโลกนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น คนส่วนใหญ่ในโลกบอกให้ทุกคนเป็นคนดีแล้วโลกจะมีความสุข
ผู้เขียนผู้เขียนถามหนุ่มต่างชาติคนนั้นว่าแล้วการเป็นคนดีทำอย่างไร เขาก็ทำหน้างงๆแล้วก็อึกอัก ผู้เขียนก็งงเพราะพื้นฐานของคนดีต้องเป็นอย่างไงก็ยากจะตอบแล้วจะทำให้โลกนี้มีความสุขอย่างไรผู้เขียนลองเสนอว่าลองศีล5ไหม เช่นเริ่มข้อเดียวก่อนก็ได้ข้อไม่ฆ่าสัตว์ข้อนี้จะทำให้โลกมีความสุขขึ้นไหม เช่นว่าโกรธเกลียดหรือรักกันแค่ไหนก็อย่าฆ่ากันนะทั้งโลกเลย โลกนี้จะดีขึ้นไหมใช้หลักธรรมเสมอมาในโลกปัจจุบันที่มีเทคโนโลยี่ยากจะติดตามได้ทัน แต่การหยุดกับความรู้เมื่อสองพันปีกว่าก็ไม่เคยเห็นว่าจtใช้ไม่ได้ ยังเชื่อต่อไปว่าในอนาคต ก็จะยังคงเป็นไปเช่นนี้ 

ตัวอย่างเรื่องในพระไตรปิฎกที่เข้าใจได้ง่ายเช่นเรื่องชาย หญิง ที่มีอิทธิพลต่อกันจะเป็นด้วยธรรมชาติจัดสรรไว้อย่างนั้นก็ตามแต่พระพุทธองค์ก็ชี้ให้เห็นว่า รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เป็นสิ่งเย้ายวนเพศตรงข้าม ถ้าตาไม่เห็น หูไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่รับรส ไม่สัมผัส จะเป็นอย่างไร


ที่น่าสนใจในพระสูตรนี้ว่าทำไมจึงกล่าวเฉพาะ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส แต่ไม่กล่าวถึงธรรมารมณ์ ผู้เขียนเองก็ไม่เข้าใจ



@นั่งเก้าอี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น